ศูนย์วิจัยนวัตกรรมทางธุรกิจ คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยหาดใหญ่ ได้ดำเนินการจัดทำดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในเดือนเมษายน 2560 โดยเก็บแบบสอบถามกับกลุ่มตัวอย่างจากประชาชนภาคครัวเรือน ในพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้ จำนวน 420 ตัวอย่าง พบว่าเป็นเพศหญิง คิดเป็นร้อยละ 56.80 เพศชาย ร้อยละ 43.20 ส่วนใหญ่มีอายุระหว่าง 25-34 ปี คิดเป็นร้อยละ 31.70 และมีระดับการศึกษามัธยมศึกษาชั้นปีที่ 6 / ปวช. / ปวส. คิดเป็นร้อยละ 42.40
ผลการสำรวจความเชื่อมั่นผู้บริโภคภาคครัวเรือนในพื้นที่ภาคใต้ ด้านเศรษฐกิจ เดือนเมษายน เปรียบเทียบ
เดือนมีนาคม และคาดการณ์ในอีก 3 เดือนข้างหน้า
รายการข้อคำถาม | มีนาคม | เมษายน | คาดการณ์ใน 3 เดือนข้างหน้า | ||||||
เพิ่มขึ้น/ | คงที่/ | ลดลง/ | เพิ่มขึ้น/ | คงที่/ | ลดลง/ | เพิ่มขึ้น/ | คงที่/ | ลดลง/ | |
ดีขึ้น | เท่าเดิม | แย่ลง | ดีขึ้น | เท่าเดิม | แย่ลง | ดีขึ้น | เท่าเดิม | แย่ลง | |
1. ภาวะเศรษฐกิจโดยรวม | 19.10 | 53.60 | 27.30 | 22.60 | 52.10 | 25.30 | 22.60 | 54.90 | 22.50 |
2. รายได้จากการทำงาน | 19.10 | 52.80 | 28.10 | 18.30 | 55.80 | 25.90 | 34.20 | 52.70 | 13.10 |
3. โอกาสในการหางานทำ/ได้งานใหม่ | 14.20 | 52.60 | 33.20 | 12.60 | 55.40 | 32.00 | 21.50 | 57.30 | 21.20 |
4. รายจ่ายเพื่อซื้อสินค้าอุปโภค บริโภคที่จำเป็นในครัวเรือน | 21.80 | 58.30 | 19.90 | 25.70 | 55.10 | 19.20 | 29.70 | 55.90 | 14.40 |
5. รายจ่ายเพื่อซื้อสินค้าประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้า ได้แก่ โทรทัศน์ ตู้เย็น ไมโครเวฟ เครื่องเสียง พัดลม เครื่องปรับอากาศ เครื่องซักผ้า ฯลฯ | 18.30 | 48.50 | 33.20 | 19.80 | 49.70 | 30.50 | 24.60 | 52.50 | 22.90 |
6. รายจ่ายที่เกี่ยวข้องด้านอสังหาริมทรัพย์ ได้แก่ ซื้อ ปรับปรุง ต่อเติม ซ่อมแซม บ้านและที่อยู่อาศัย | 13.20 | 49.40 | 37.40 | 12.20 | 52.30 | 35.50 | 26.80 | 56.30 | 16.90 |
7. รายจ่ายด้านการท่องเที่ยว เช่น การเดินทาง ของฝาก ฯลฯ | 16.30 | 57.80 | 25.90 | 20.60 | 59.60 | 19.80 | 29.70 | 57.40 | 12.90 |
ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคภาคครัวเรือนในพื้นที่ภาคใต้ เดือน กุมภาพันธ์ มีนาคม และเมษายน2560
รายการข้อคำถาม | กุมภาพันธ์ | มีนาคม | เมษายน |
1. ภาวะเศรษฐกิจโดยรวม | 47.10 | 45.90 | 48.65 |
2. รายได้จากการทำงาน | 47.60 | 45.50 | 46.20 |
3. โอกาสในการหางานทำ/ได้งานใหม่ | 42.00 | 40.50 | 40.30 |
4. รายจ่ายเพื่อซื้อสินค้าอุปโภค บริโภคที่จำเป็นในครัวเรือน | 53.40 | 50.95 | 53.25 |
5. รายจ่ายเพื่อซื้อสินค้าประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้า ได้แก่ โทรทัศน์ ตู้เย็น ไมโครเวฟ เครื่องเสียง
พัดลม เครื่องปรับอากาศ เครื่องซักผ้า ฯลฯ |
43.70 | 42.55 | 44.65 |
6. รายจ่ายที่เกี่ยวข้องด้านอสังหาฯ ได้แก่ ซื้อ ปรับปรุง ต่อเติม ซ่อมแซม บ้านและที่อยู่อาศัย | 38.95 | 37.90 | 38.35 |
7. รายจ่ายด้านการท่องเที่ยว ได้แก่ การเดินทาง ของฝาก ฯลฯ | 47.05 | 45.20 | 50.40 |
8. ความเชื่อมั่นผู้บริโภคโดยรวม | 45.69 | 44.07 | 45.97 |
ผศ.ดร.วิวัฒน์ จันทร์กิ่งทอง ผู้จัดการศูนย์วิจัยนวัตกรรมทางธุรกิจ รายงานผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคภาคครัวเรือนในพื้นที่ภาคใต้ เดือนเมษายน พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคโดยรวมปรับตัวเพิ่มขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนมีนาคม ส่วนหนึ่งมาจากการจับจ่ายใช้สอยของประชาชนจากการท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์
ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นได้แก่ ภาวะเศรษฐกิจโดยรวม รายได้จากการทำงาน รายจ่ายเพื่อซื้อสินค้าอุปโภค บริโภคที่จำเป็นในครัวเรือน รายจ่ายเพื่อซื้อสินค้าประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้า รายจ่ายที่เกี่ยวข้องด้านอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะรายจ่ายด้านการท่องเที่ยวมีการปรับเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน เนื่องมาจากวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ ที่กระตุ้นให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวและจับจ่ายใช้สอยเพิ่มขึ้น รวมทั้งการเข้ามาเที่ยวในเทศกาลสงกรานต์ของนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียและสิงคโปร์ซึ่งสร้างเงินสะพัดไม่ต่ำกว่า 300 ล้านบาท(www.manager.co.th , 28 เมษายน 2560) และปัจจัยบวกจากนโยบายภาครัฐ ซึ่งกระทรวงการคลังได้จัดงบประมาณกว่า 3หมื่นล้านบาทต่อปี ให้เป็นสวัสดิการคนจนที่ลงทะเบียนแล้วทั่วประเทศกว่า 10 ล้านคน (www.innnews.co.th, 28 เมษายน 2560)
ขณะที่ผลคาดการณ์ในอีก 3 เดือนข้างหน้า ประชาชนส่วนใหญ่เชื่อว่าภาวะเศรษฐกิจโดยรวม และรายได้จากการทำงานจะเพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 22.60 และ 34.20 ตามลำดับ ส่วนความเชื่อมั่นต่อรายจ่ายเพื่อซื้อสินค้าอุปโภค บริโภคที่จำเป็นในครัวเรือน และรายจ่ายด้านการท่องเที่ยว ในอีก 3 เดือนข้างหน้าจะเพิ่มขึ้น คิดเป็นร้อยละ 29.70 เท่ากันในทั้งสองด้าน โดยคาดว่า ปัจจัยบวกจากการท่องเที่ยว เนื่องจากเดือนพฤษภาคมมีวันหยุดหลายวัน และการจับจ่ายใช้สอยเพื่อซื้อสินค้าอุปโภค บริโภคที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากเป็นช่วงเปิดภาคเรียนของนักเรียน ทำให้เกิดการใช้จ่ายมากขึ้น
ปัจจัยที่ประชาชนส่วนใหญ่มองว่ามีผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันมากที่สุด คือ ราคาสินค้าคิดเป็นร้อยละ 25.60 รองลงมา คือ ค่าครองชีพ และหนี้สินครัวเรือน คิดเป็นร้อยละ 23.40 และ12.50 ตามลำดับ ขณะที่ปัญหาเร่งด่วนที่ประชาชนส่วนใหญ่มองว่ารัฐบาลควรให้ความช่วยเหลือเป็นอันดับแรก คือ ค่าครองชีพ รองลงมา คือ ราคาสินค้า และหนี้สินครัวเรือนตามลำดับ